lundi 2 octobre 2017

MUSÉE YVES SAINT LAURENT, Paris




เมื่อวันที่ 1 ตุลาที่ผ่านมา เราได้ไปต่อคิวเพื่อจะเข้าไปชม YSL Museum ที่กำลังจะเปิดใหม่อย่างเป็นทางการในวันที่ 3 ตุลาเป็นวันแรก สำหรับวันที่ 1 นั้น เป็นการเปิด Open Houseให้เข้าชมฟรีเพียงวันเดียวก่อนเปิดจริง ทำให้มีคนจำนวนมหาศาลทั้งชาวฝรั่งเศสเองและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก มายืนต่อคิวรอจนแถวยาวขดไปสามมุมถนน



จริงๆแล้วเราตั้งใจจะไปรอตั้งแต่ 9 โมงเช้าตามเวลาเปิด แต่นาฬิกาไม่ปลุก เลยตัดสินใจไปหาข้าวกินและทำธุระนู่นนี่ก่อน แล้วไปต่อคิวตอนประมาณบ่าย 3โมง ยืนรอคิวจนถึง 6โมงเย็น เค้าทำท่าจะปิดไม่ให้เข้าแล้ว แต่โชคดีมีมาดามฝรั่งโวยวายเถียงกับเจ้าหน้าที่ใหญ่โต จนสุดท้ายมีเจ้าหน้าที่มาเปิดให้เข้าไปเป็นล็อตสุดท้ายพอดี นึกว่าจะต่อคิวเก้อซะแล้ว...     

                                               
             



บอกก่อนว่า สถานที่ตั้งของ YSL Museum ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากถนน Champs-Elysées อันโด่งดังนี้ เคยเป็นที่ทำการและเป็นห้องเสื้อของ Yves Saint Laurent จริงๆ ตั้งแต่ปี 1974 - 2002 แล้วมาปิดตัวลงภายหลังเพื่อทำเป็น Pierre Bergé - Yves Saint Laurent
Foundation แทน



มิวเซียมนี้ไม่ใหญ่นัก ใช้เวลาเดินประมาณ 45 นาทีก็ดูครบ
พอเข้าไปด้านใน แน่นอนว่าต้องเจอด่านตรวจกระเป๋าก่อน แล้วก็ผ่านเข้าไปในห้องแรก ซึ่งเป็นห้องโถงที่ในอดีตเคยใช้เป็นโถงต้อนรับลูกค้าที่มาตัดชุด และยังเคยใช้เป็นที่เดินแฟชั่นจนถึงปี 1976 ด้วย โถงนี้ปัจจุบันถูกตกแต่งไปด้วยรูปของ Yves Saint Laurent รอบๆ ส่วนบริเวณด้านหน้ามีจอฉายสารคดี และมีเก้าอี้ให้นั่งชม





ถัดมา ก็จะเป็นส่วนที่แสดงถึง STYLE ที่กำหนดนิยามความเป็น Yves Saint Laurent แบบที่เราคุ้นเคยกันดี นั่นก็คือสไตล์ที่เอาความเป็น Masculinity มาดัดแปลงให้เข้ากับหุ่นของสตรี ผสมผสานความเรียบง่าย (Simplicity) กับความงามสง่า (Elegance) เข้าด้วยกัน  




โซนต่อมา เป็นการแสดงการกำเนิดของคอลเลคชั่นต่างๆ โดยเราจะได้เห็นแบบร่างของชุดและตัวอย่างผ้าที่จะนำมาใช้ รวมถึงบอร์ดของแต่ละคอลเลคชั่น





ส่วนที่ 4 คือส่วนของ Savoir-faire ที่เป็นการจัดแสดงผลงานที่ใช้เทคนิคต่างๆ ที่เกิดจากการผสมผสาน collaboration ระหว่างงานตัดเย็บขั้นสูงกับงานฝีมือชนิดอื่นๆ เช่นงานภาพพิมพ์ งานทอผ้า งานปัก


ถัดมาเป็นโซน Exoticism เป็นการแสดงผลงานที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากต่างประเทศ ซึ่งแรงบันดาลใจเหล่านี้ เกิดมาจากการเดินทางท่องเที่ยวในจินตนาการผ่านการอ่านหนังสือของ Yves Saint Laurent ดังที่เขากล่าวไว้ว่า การเดินทางที่สวยงามที่สุดของเขา เกิดขึ้นผ่านหนังสือ บนโซฟา ในห้องนั่งเล่นของเขา




โซนที่ 6 เป็นห้องชมหนังสั้นเกี่ยวกับชีวิตและความสัมพันธ์ของ Yves Saint Laurent กับ Pierre Bergé ผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นหุ้นส่วนของ Yves Saint Laurent แต่อันนี้เราไม่ได้
เข้าไปดูเพราะมันเลยเวลาฉายของรอบสุดท้ายไปแล้ว :(


ส่วนโซนถัดมาเป็นส่วนที่แสดงชุดที่มาจากการศึกษาแฟชั่นในยุคต่างๆ เช่น ชุดของสตรีในยุคกลาง, ยุค Renaissance, ชุดของขุนนางชนชั้นสูงในศตวรรษที่ 18, หรือกระโปรงสุ่มในศตวรรษที่ 19 มาประยุกต์ 


   

ถัดมาคือโซนที่ชอบมาก นั่นก็คือ Studio ทำงานของ Yves Saint Laurent ซึ่งเป็นห้องมีการตกแต่งที่แตกต่างกับส่วนอื่นๆ เพราะเป็นบรรยากาศการทำงานที่เขาต้องการ คือมีพื้นที่กว้าง สว่าง และเงียบสงบ ผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกทั้งหมด 

























โซนที่ 9 มีฉาย vdo ทั้งหมด 6 เรื่อง ที่เล่าถึงการทำงานขั้นตอนต่างๆในห้องเสื้อแห่งนี้ ส่วนอีกด้านหนึ่งของห้อง เป็นการแสดงชุดที่ได้แรงบันดาลใจจากผลงานทางศิลปะของศิลปินแขนงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจิตรกร นักเขียน นักประพันธ์เพลง และนักเต้น เช่นตัวอย่างในภาพด้านล่างขวา คือเสื้อลายดอกทานตะวันที่มาจากผลงานชุด Sunflowers ของ Van Gogh นั่นเอง


ถัดไปเป็นตู้แสดงเครื่องประดับ เพราะสำหรับ Yves Saint Laurent นั้น เครื่องประดับถือเป็นส่วนสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นหมวก สร้อยคอ ตุ้มหู ถุงมือ รองเท้า เขากล่าวไว้ว่า เครื่องประดับช่วยเปลี่ยนแปลงเสื้อผ้า ดั่งเช่นเสื้อผ้าช่วยเปลี่ยนแปลงสตรี



 



ผนังฝั่งตรงข้าม จะเป็นผนังที่รวบรวมผลงานการวาดภาพของ Yves Saint Laurent ที่แสดงให้เห็นถึงความสนใจที่ไม่จำกัดเพียงแค่งานออกแบบ Haute couture เท่านั้น ยังมีทั้งงานวาดภาพประกอบตัวละครและฉากในนิยาย งานออกแบบ costume และฉากสำหรับการแสดงละครเวทีด้วย

ปิดท้ายก่อนจะวนออกมายังทางออก ด้วยร้านขายของที่ระลึก ซึ่งมีทั้งหนังสือแฟชั่น ชีวประวัติ สมุดโน้ต โปสการ์ดน่ารักๆ  และของกระจุกกระจิกให้เราซื้อติดไม้ติดมือกลับไป 

นับว่าเป็น Museum ที่สวยงามตามท้องเรื่อง ถึงแม้จะไม่ใหญ่มากนัก แต่สำหรับคนที่สนใจแฟชั่นก็น่าจะประทับใจพอสมควร ส่วนคนทั่วไปก็เข้าชมได้เพลินๆ มีเสื้อผ้าเครื่องประดับสวยๆงามๆให้ดู และภายในเค้าก็อนุญาตให้ถ่ายรูปได้หมดโดยงดใช้แฟลช
แม้ว่ารูปที่ลงให้ดูนี้ก็เกือบจะ 80% ของทั้งหมดแล้ว แต่แน่นอนว่ามันย่อมเทียบไม่ได้กับการเห็นของจริงอยู่ดีเนอะ 




สำหรับราคาเข้าชมปกติอยู่ที่ 10 ยูโร
เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน ยกเว้น วันจันทร์ 

Address: 5 Avenue Marceau, Paris 16e







dimanche 8 mai 2016

Café Constant...by a Michelin Starred Chef at down to earth prices

Hello everyone! For those who are planning to visit the City of Lights and want to try French food with medium budget, be sure to add "Café Constant" to your list!


Café Constant is one of the several French restaurants owned by Chef Christian Constant, whose first brasserie, Le Violon d'Ingres is crowned with 1 Michelin star. Each of his restaurants has its own unique identity but all come at down to earth prices. I haven't got to try the others yet. However, Café Constant is a 15-min. walk from the Eiffel, so it's an ideal place for an evening before visiting the sparkling tower at night.

Here they serve traditional brasserie food. But do you know what a "brasserie" is? A Brasserie is a type of French restaurant with a relaxed setting, which serves single dishes and other meals. Going to a brasserie, you can expect professional service and printed menus, unlike a bistro which may have none of these. Typically, a brasserie is open every day of the week and serves the same menu all day.


At Café Constant, you can find two sets of menus (entrées/plats/desserts), the Classic menu and the Chef's suggestion which is more expensive. What I love about this place is their 16-euro main dish selection. I have to say, it's not easy to find a dish with such quality below 20 euros in Paris, but as I already tried 4 dishes from the classic menu, I guarantee that they're well-prepared, fresh, and exquisite! 

Here's what you can get for 16 euros...


- Beef stew with boiled potatoes and carrots
- Veal cutlet from the Basque country with white Tarbais beans

- Duck and potato pie* (my no.1 favorite)
- Escalope of veal Cordon-Bleu 

- Grilled fillet of Seabream Royale with pesto, button mushroom pesto

- Patte Bleu chicken roasted with herby butter, potatoes with bacon and baby onions

- Poached cod served with seasonal vegetables, garlic mayonnaise

- Blonde Aquitaine steak with shallots and homemade mashed potatoes


Let's take a look at what I already tried..


Tartare of oysters, salmon, and seabass
Duck and potato pie (Parmentier de Cuisse de Canard)
Veal cutlet with white beans
Grilled fillet of seabream royale with pesto, risotto   
Poached Cod served with seasonal vegetables
Profiteroles with chocolate sauce

In the dining area, you can find some homemade products as well as the chef's cookbooks available for sale.

For dinner, I suggest you go no later than 7pm, otherwise you will have to wait in a long line and they take no reservations!!

Address: 139 Rue Saint-Dominique, 75007 Paris 
Open EVERYDAY from 12 to 11pm

Once you're satisfied with your dinner, there's no better way to digest your meal than walking to the Eiffel to complete your splendid night with an enchanting view of Paris...






mercredi 13 avril 2016

French cuisine: Delicious home made foie gras at a friendly price

One thing you should never miss when you travel is to try local cuisine!

When I travel, I never forget to include at least one meal at a nice traditional restaurant in my itinerary for each city I visit. I believe that learning about their local cuisine, as part of their culture, is a valuable experience too. 


Talking about French cuisine,
I'm sure you've heard 
of a luxury food product mainly produced in the south west region of France.. >>> FOIE GRAS.
The French law even states that "Foie gras belongs to the protected culture and gastronomical heritage of France."
Do you know how it's made?

Foie gras is made of the liver of a duck or goose that has been specially fattened by force-feeding corn with a feeding tube, and we call this process "gavage".


Foie-gras can be prepared in many different ways. For cold preparations, you can make it a moose, paté, or terrine while for hot preparations you can have it roased, sauteed, pan-seared, or grilled.



If you're looking for a place to try a delicious foie gras at a friendly price (17 - 20 euros per dish), Le Comptoir de la Gastronomie should fit your needs. I discovered this restaurant a year ago and still keep going back every time I feel like having some foie gras in a cozy atmosphere.

But wait!!! Even if you're not a fan of foie gras, this place is still highly recommended! Although this old restaurant are widely-known for foie gras, people do come for many other classic French dishes, such as Onion soup, 
Escargots de Bourgogne (Burgundy snails), Parmentier de confit de canard (Duck confit), Homemade French smoked salmon, Pork cheeks stew, Chicken breast stuffed with herbs and fresh girolles, etc.

 












Let me tempt you with the pictures of some dishes I had there.. starting with a rich French onion soup which was actually quite heavy for an entrée. Next, unless you're a foie gras-hater, I strongly suggest you try this delicate home made duck foie gras terrine with chutney and toast.. try and you will understand why people love it!
Enjoying my super cheesy Onion Soup
Home-made duck foie gras with chutney and toast

Now let's move on to the main course. Again, if you like foie gras, pan-seared duck foie gras won't disappoint you. Although I have to warn you that it's very rich and you might not want to finish the whole thing alone. 


Escalope de foie gras poêlée (Pan-seared duck foie gras)
Magret de canard or a seared duck breast, a famous dish from south western France, is also my favorite. This dish you will taste a very thick but soft and juicy duck breast dressed with a sweet sauce that gives a honey and orange flavor.

 Magret de canard (Seared duck breast)
  
Filet de boeuf façon Rossini (Rossini beef fillet)

But I have to say I never get to try any dessert there yet, because I'm always too full after entrée, main course, and some little bites from other people's dishes. LOL

By the way, for those who love to enhance a dish with a nice drink, the restaurant offers a wide selection of champagne, wine and spirits that you can pair your dish with.

Me and my pan-seared duck foie gras



Le Comptoir de la Gastronomy is a small cozy restaurant, so if you plan to go there, a reservation might be a good idea. To reserve a table, call 01 42 33 31 32.


The restaurant is located in the first (oldest) arrondissement of Paris, opened from 12.00 - 23.00 on Monday - Thursday, and from 12.00 - 24.00 on Friday and Saturday. (closed on Sunday)

Address: 34 Rue Montmartre, 75001 Paris